CLARION AX1

CLARION AX1 เครื่องเสียงรถยนต์พลังแอนดรอยด์ตัวแรกของโลก!!

ฟีเจอร์ของ Clarion AX1
• เล่นวิทยุ AM FM ได้ด้วย RDS (อันนี้มันก็แน่นอนอยู่ละ)
• USB มีสองพอร์ท และสามารถเสียบ SD card ได้
• Bluetooh v3.0 สามารถคุย Handsfree หรือเล่นเพลงจากมือถือได้
• ใช้งานร่วมกับ iPhone ได้
• มี WiFi ให้สามารถรับสัญญานที่ปล่อยจากมือถือมาเล่นเว็บต่างๆได้
• สตรีมไฟล์ภาพ เพลง วิดีโอจากมือถือมาเล่นบนเครื่องได้
• ไม่มี Play Store แต่มี Infogo Apps Garage มาให้แทน ซึ่งแอพจะมีไม่มากนัก แต่ทางบริษัทบอกว่าทุกแอพผ่านการตรวจสอบให้ใช้งานได้ง่ายบนรถ
• มีบริการ Infogo ที่สามารถโหลดเพลงมาฟังได้ฟรี ซึ่งตอนนี้จะมีแค่ของค่าย Grammy ก่อนเท่านั้น
• แผนที่นำทาง IGO

Description

ทำไม Clarion ใช้ Android 2.3
• ทีมเทคนิคให้ข้อมูลว่า Android 2.3 เป็นเฟิร์มแวร์ที่สมบูรณ์และเสถียรที่สุดในการเอามาทำ Head Unit (แต่ก็แอบบอกว่าเป็น firmware ตัวแรกที่จับมาทำ และใช้เวลาพัฒนากว่า 18 เดือน)
สเปคน้อยไปรึเปล่า
• ถ้าเอาไปเทียบกับเหล่าสเปคของ Tablet ที่วางขายอยู่ก็น่าจะดูน้อย แต่ว่ามันก็เพียงพอกับการเล่นเพลง วิดีโอ หรือภาพได้อยู่นะ

ต่างจากซื้อ Tablet มาติดห้อยอย่างไร
• ทางบริษัท Clarion บอกว่ามันจะเป็น Android ที่ถูกปรับแต่งให้ใช้งานบนรถได้เหมาะสมที่สุด
• เพิ่มศักษภาพของเครื่องเสียงจะเหมือนเป็นชิ้นใหม่เลย ซึ่งจากการต่อสายจากมือถือเพื่อเล่น ที่คุณภาพเสียงมันจะไม่เท่าเครื่องเสียงปัจจุบันที่เราใช้อยู่
• เอา Tablet มาใช้งานบนรถประจำๆ แบตอาจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ
• สะดวกกว่าที่ไม่ต้องมานั่งเอาขึ้นเอาลงจากรถ
• ความรู้สึกแรกเมื่อได้จับ
• ทำไมแพงจัง – แต่ถ้าเทียบกับพวก Head Unit เครื่องเสียงรถนตร์ยี่ห้อต่างๆ ที่ขายพร้อมสเปคใกล้เคียงกันก็น่าจะราวๆ นี้แหละ (แต่เราเองยังทำใจกับราคาไม่ไหวนะ)
• หน้าจอมันแปลกๆ – ตามสเปคเขียนว่าเป็น Capacitive แต่เท่าที่เราลองเล่นดู มันเหมือนจะเป็นหน้าจอ Resistive ที่ไวต่อการสั่งงานด้วยวัตถุทั่วไป เช่นปากกาสไตลัส หรือเล็บของเรามากกว่านิ้ว
• ไม่ได้สมูท ลองเล่นดูแล้วยังไม่ค่อยติดนิ้วอะไรมากมาย กระตุกหรือหน่วงๆเป็นบางเวลา

CLARION AX1

ทำไม Clarion ใช้ Android 2.3
• ทีมเทคนิคให้ข้อมูลว่า Android 2.3 เป็นเฟิร์มแวร์ที่สมบูรณ์และเสถียรที่สุดในการเอามาทำ Head Unit (แต่ก็แอบบอกว่าเป็น firmware ตัวแรกที่จับมาทำ และใช้เวลาพัฒนากว่า 18 เดือน)
สเปคน้อยไปรึเปล่า
• ถ้าเอาไปเทียบกับเหล่าสเปคของ Tablet ที่วางขายอยู่ก็น่าจะดูน้อย แต่ว่ามันก็เพียงพอกับการเล่นเพลง วิดีโอ หรือภาพได้อยู่นะ

ต่างจากซื้อ Tablet มาติดห้อยอย่างไร
• ทางบริษัท Clarion บอกว่ามันจะเป็น Android ที่ถูกปรับแต่งให้ใช้งานบนรถได้เหมาะสมที่สุด
• เพิ่มศักษภาพของเครื่องเสียงจะเหมือนเป็นชิ้นใหม่เลย ซึ่งจากการต่อสายจากมือถือเพื่อเล่น ที่คุณภาพเสียงมันจะไม่เท่าเครื่องเสียงปัจจุบันที่เราใช้อยู่
• เอา Tablet มาใช้งานบนรถประจำๆ แบตอาจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ
• สะดวกกว่าที่ไม่ต้องมานั่งเอาขึ้นเอาลงจากรถ
• ความรู้สึกแรกเมื่อได้จับ
• ทำไมแพงจัง – แต่ถ้าเทียบกับพวก Head Unit เครื่องเสียงรถนตร์ยี่ห้อต่างๆ ที่ขายพร้อมสเปคใกล้เคียงกันก็น่าจะราวๆ นี้แหละ (แต่เราเองยังทำใจกับราคาไม่ไหวนะ)
• หน้าจอมันแปลกๆ – ตามสเปคเขียนว่าเป็น Capacitive แต่เท่าที่เราลองเล่นดู มันเหมือนจะเป็นหน้าจอ Resistive ที่ไวต่อการสั่งงานด้วยวัตถุทั่วไป เช่นปากกาสไตลัส หรือเล็บของเรามากกว่านิ้ว
• ไม่ได้สมูท ลองเล่นดูแล้วยังไม่ค่อยติดนิ้วอะไรมากมาย กระตุกหรือหน่วงๆเป็นบางเวลา